พระราชประวัติ ของ เอลีซาเบ็ท คริสทีเนอ แห่งเบราน์ชไวค์-ว็อลเฟินบึทเทิล

เอลีซาเบ็ท คริสทีเนอ เป็นพระราชธิดาพระองค์โตในลูทวิช รูด็อล์ฟ ดยุคแห่งเบราน์ชไวค์-ว็อลเฟินบึทเทิล กับ เจ้าหญิงคริสทีเนอ ลูอีเซอ แห่งเอิททิงเงิน-เอิททิงเงิน

เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้ 13 พรรษา ก็ถูกหมั้นหมายเตรียมที่จะให้มีการสมรสกับจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของญาติทั้งสองฝ่าย นั่นก็คืออันทอน อูลิชช์ ดยุคแห่งเบราน์ชไวค์-ว็อลเฟินบึทเทิล ผู้เป็นพระอัยกาของพระองค์ และจักรพรรดินีวิลเฮ็ลมีเนอ อมาเลีย พระเชษฐนีของจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 อย่างไรก็ตามนั้นในตอนแรกพระองค์ต่อต้านการคลุมถุงชนครั้งนี้มาก เพราะพระองค์ถือนิกายลูเทอแรน แต่คู่หมั้นหรือพระสวามีของพระองค์นั้นนับถือโรมันคาทอลิก ซึ่งเกรงว่าจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของคู่แต่งงานในอนาคต แต่นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่พระองค์ทรงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่สามีจักรพรรดินีเอเลนอร์แห่งนูเรน์เบิร์ก ผู้โน้มน้าวพระองค์และแนะนำพระองค์ในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับความเชื่อนิกายคาธอลิก จนสามารถเปลี่ยนพระองค์ให้กลายมานับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกได้

พระชนม์ชีพที่สเปน

จักรพรรดิคารฺ์ลที่ 6 กับจักรพรรดินีเอลีซาเบ็ท ในห้วงเวลาที่พระองค์ทรงแต่งงานกันในปี 2251

ในช่วงเวลาที่จะจัดแจงให้มีการอภิเษกสมรสกันนั้น จักรพรรดิคาร์ลที่ 6 หรือพระยศในขณะนั้นคืออาร์คดยุคคาร์ลทรงอยู่ที่สเปน และกำลังนำทัพของราชวงศ์ฮาพส์บวร์คอ้างสิทธิ์เหนือราชบัลลังก์ในสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน โดยมีฐานกำลังหลักอยู่ที่บริเวณอารากอน นั่นทำให้พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเอลีซาเบ็ทกับคาร์ลในปี 2251 ที่โบสถ์ซันตามาริอาดัลมาร์ (โบสถ์แห่งพระแม่มารีย์ผู้อวยพรท้องทะเล) ทว่าหลังจากผ่านพิธีอภิเษกสมรสไปแล้ว ชีวิตหลังการแต่งงานของพระองค์กลับเต็มไปด้วยความกดดันให้พระองค์ "ให้กำเนิดบุตรชาย" เป็นอย่างมาก และคนรอบข้างยิ่งกดดันพระองค์เพิ่มเข้าไปอีก เมื่อพระเจ้าเฟลิเปที่ 5 อันเป็นคู่ขัดแย้งทรงมีบุตรสืบราชสกุลไปแล้ว แรงกดดันที่พระองค์ต้องแบกรับทำให้พระองค์เขียนจดหมายรายงานสถานการณ์พร้อมกับสารทุกข์สุขดิบของตัวเองกับมารดาของพระองค์เจ้าหญิงคริสทีเนอ ลูอีเซอ แห่งเอิททิงเงิน เพื่อเป็นการปลอมประโลมตัวเอง อันเป็นไม่กี่หนทางที่ช่วยทำให้พระองค์มีความสุขได้[1]

ต่อมาในปี 2254 คาร์ลกลับไปยังเวียนนา เพื่อรับตำแหน่งเป็น "จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์" ต่อจากพระเชษฐาที่เสด็จสวรรคตไปอย่างกะทันหัน ในตอนที่เขากลับไปยังออสเตรีย เขาแต่งตั้งเอลีซาเบ็ทเป็นผู้ว่าการแห่งคาตาลันเพื่อปกครองดินแดนสเปน ซึ่งพระองค์ก็สามารถประคับประคองดินแดนนี้ได้นานถึงสองปีอย่างมีประสิทธิภาพ[2] จนกระทั่งทางพระเจ้าเฟลิเปที่ 5 ยอมเจรจากับพวกฮาพส์บวร์กเพื่อยุติสงคราม หลังจากสงครามจบลงพระองค์ก็กลับไปยังเวียนนา และปกครองดินแดนของพระองค์ในฐานะ "จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์"

พระชนมชีพที่เวียนนา

ในฐานะจักรพรรดินี พระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถทั้งทางด้านศิลปะอย่าง การดนตรี รวมถึงทางด้านการเมืองที่พระองค์นั้นเต็มไปด้วยความสุขุมรอบคอบ รู้จักการวางตัวที่ดี และเป็นคนสุภาพเรียบร้อย รวมถึงยังถูกกล่าวถึงถึงความสามารถเฉพาะทางที่นอกเหนือจากที่จักรพรรดินีคนอื่นมีมาตั้งแต่สมัยอยู่ในราชสำนักที่สเปน นั่นก็คือ การออกมาล่าสัตว์ ว่ากันว่าความสามารถในการล่าสัตว์ของพระองค์นั้นค่อนข้างอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในตอนแรกนั้นจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 ไม่ได้ยอมให้พระองค์มีบทบาททางการเมืองมากเท่าไหร่นัก แต่ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่ารัฐมนตรีในราชสำนัก ประกอบกับการพิสูจน์ตัวเองตลอดเวลาที่มาอยู่ที่เวียนนา ทำให้พระองค์สะสมพระบารมีเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงทศวรรษที่ 2260 พระองค์ทรงมีอิทธิพลอย่างมากต่อการทำสนธิสัญญากับรัสเซียผ่านทางอิทธิพลจากพระประยูรญาติในดินแดนเยอรมันทางเหนือ และยังทรงคัดค้านอย่างหนักในการส่งพระราชธิดาไปอภิเษกสมรสกับทางราชวงศ์สเปนอีกด้วย[3]

ในส่วนของชีวิตการสมรสนั้น เมื่อมาที่เวียนนาพระองค์ก็ต้องเจอกับมรสุมความกดดันที่ถาโถมมามากกว่าเดิม ด้วยการสมรสของพระองค์กับจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 นั้น มุ่งหวังที่จะให้มีบุตรชายคลอดออกมาเพื่อสืบสกุลและราชบัลลังก์ ซึ่งในตอนแรกพระองค์จะสามารถมีประสูติกาลพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ อาร์คดยุคเลโอปอล จอห์นขึ้นมาสืบสายตระกูลตามที่หลายฝ่ายคาดหวังได้สำเร็จ แต่ว่าพระราชโอรสองค์ใหญ่นั้นมีพระชนมายุได้เพียงแค่ 7 เดือน ก็สวรรคต การตายจากไปของพระราชโอรสนำไปสู่ความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวงต่อจักรพรรดินี จากเหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้พระองค์รู้สึกเครียดแถมยังเจ็บปวดจากการที่พระสวามีของพระองค์ไม่มั่นใจในตัวของพระองค์[1] และแม้จักรพรรดินีจะทรงครรภ์อีกสองครั้งในเวลาถัดมา แต่พระบุตรที่ประสูติออกมานั้นล้วนแล้วเป็นพระธิดาทั้งหมด นั่นจึงนำไปสู่การรักษาโดยแพทย์หลวงของราชสำนักเพื่อให้ทรงครรภ์แล้วประสูติเป็นพระราชโอรสให้ได้ โดยในตอนแรกแพทย์หลวงเหล่านั้นแนะนำให้พระองค์เสวยน้ำจัณฑ์เป็นปริมาณมาก โดยเชื่อว่าน้ำจัณฑ์จะสามารถทำให้ทรงตั้งครรภ์เป็นพระราชโอรสได้มากขึ้น ในเวลานั้นพระพักตร์ของพระองค์จึงแทบจะแดงตลอดเวลา จากนั้นไม่นานก็ทัดทานให้องค์จักรพรรดินีทรงรับประทานอาหารอันอุดมสมบูรณ์เพื่อวาดหวังให้พระองค์ทรงครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรนั้นผลที่ตามกลับมาเลวร้ายลงกว่าเดิม เมื่ออาหารที่พระองค์รับประทานไปเป็นจำนวนมากนั้นมันทำให้พระองค์ประสบกับโรคอ้วนจนแทบจะเดินไม่ได้ แถมยังต้องทรมานจากอาการนอนไม่หลับและพระวรกายบวมน้ำอีกด้วย ทำให้ต้องมีการสร้างพระเก้าอี้พิเศษสำหรับพระองค์โดยเฉพาะขึ้นมา เพื่อจะไม่ต้องให้พระองค์ทรงทรมานในการประทับในพระราชวัง[4]

ตลอดช่วงเวลาที่พระองค์ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการประชวรเนื่องด้วยคำแนะนำของแพทย์หลวง จักรพรรดิคาร์ลที่ 6 พระสวามีก็เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด พระองค์มักจะทรงมาแวะเวียนเยี่ยมพร้อมกับหยอกพระองค์ด้วยการเรียกพระองค์ด้วยชื่อชองสัตว์เลี้ยงของพระองค์อย่าง ‘White Liz’ ในพระราชบันทึกส่วนพระองค์ของจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 ทรงเขียนถึงสุขภาพของพระมเหสีในแต่ละวัน พร้อมกับมอบเบี้ยให้เปล่าให้กับจักรพรรดินีตลอดเวลา[4] ซึ่งแสดงให้ถึงความห่วงใยที่พระจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 ทรงมีให้กับจักรพรรดินีของพระองค์ แม้ว่าในความสัมพันธ์หลังการอภิเษกสมรสของพระองค์จะไม่ได้ดีนัก เพราะว่าจักรพรรดิคาร์ลที่ 6 นั้นมีความสัมพันธ์อย่างลับ ๆ กับพนางในหลายคนก่อนที่จะอภิเษกสมรสกับพระองค์ รวมทั้งพระสวามีของพระพระองค์ยังแอบเล่นชู้กับพวกเด็กผู้ชายอีกด้วย

ในส่วนความสัมพันธ์กับทางพระญาติ จักรพรรดินีเอลีซาเบ็ททรงมีความสนิทชิดเชื้อกันดีกับจักรพรรดินีเอเลนอร์ พระสัสสุ และจักรพรรดินีวิลเฮ็ลมีเนอ อมาเลีย พระเชษฐนี จักรพรรดินีทั้งสามนี้ทรงประทับด้วยกันตลอดและมักจะดูแลกันและกัน อย่างตอนที่พระองค์ทรงพระประชวรเป็นไข้ทรพิษก็ได้จักรพรรดินีวิลเฮ็ลมีเนอ อมาเลีย คอยช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด และตอนที่จักรพรรดินีเอเลนอร์ทรงพระประชวรหนักใกล้สิ้นพระชนม์ ก็ได้เอลีซาเบ็ทคอยดูแลไม่ห่างตัว

ใกล้เคียง

เอลีซาเบ็ท คริสทีเนอ แห่งเบราน์ชไวค์-ว็อลเฟินบึทเทิล เอลีซาเบ็ทแห่งฮ็อลชไตน์-เร็นทซ์บวร์ค เอลีซาเบ็ท คริสทีเนอ แห่งเบราน์ชไวค์-ว็อลเฟินบึทเทิล-เบเวิร์น เอลีซาเบ็ทแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส เอลีซาเบ็ท เจ้าหญิงแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ เอลีซาเบ็ทแห่งวิทเทิลส์บัค